นายอิศเรศ รัตนดิลก ณ ภูเก็ต รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ขณะนี้คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) กำลังพิจารณาที่จะทำหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพื่อขอให้ทบทวนมติค่าไฟฟ้าที่ปรับขึ้นดังกล่าวเนื่องจากภาคเอกชนมองว่าจะไม่เป็นผลดีต่อเศรษฐกิจภาพรวมโดยจะเร่งทำให้เร็วที่สุดและอาจจะขอหารือเพื่อชี้แจงรายละเอียดหากเป็นไปได้ คำพูดจาก ทดลองใช้ สูตรสล็อต
“ค่อนข้างผิดหวังกับมติกกพ.อย่างแรง เพราะที่ผ่านมาคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน(กกร.) พยายามส่งหนังสือไปยังหน่วยงานต่างๆ แล้วขอให้ชะลอการปรับขึ้นแต่ยังไม่มีผลใดๆ ซึ่งเห็นว่าการขึ้นค่าไฟอัตราดังกล่าวค่อนข้างสูงที่จะกระทบภาคธุรกิจที่ต้นทุนเพิ่มขึ้น รวมถึงขีดความสามารถการแข่งขันของประเทศที่จะลดลง และยังบั่นทอนต่อการดึงดูดการลงทุนของไทย”นายอิศเรศ กล่าว
นายธนิต โสรัตน์ รองประธานสภาองค์การนายจ้างผู้ประกอบการค้าและอุตสาหกรรมไทยกล่าวว่า การตรึงค่าไฟฟ้าประเภทบ้านที่อยู่อาศัยงวด ม.ค.-เม.ย.66 ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีแต่อย่าลืมว่าการปรับขึ้นไฟภาคธุรกิจไปสู่ระดับ 5.69 บาทต่อหน่วย หรือขึ้นราว 97 สตางค์ต่อหน่วย นั้นย่อมส่งผลต่อต้นทุนภาคธุรกิจอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้นเนื่องจากที่ผ่านมาต้นทุนต่างๆ ได้สูงขึ้นทั้งค่าแรงขั้นต่ำ วัตถุดิบ ค่าพลังงานเมื่อค่าไฟขยับต่อจึงซ้ำเติมและที่สุดภาระเหล่านี้จะถูกผลักไปยังราคาสินค้าปรับขึ้นในปี 2566 ส่วนจะปรับขึ้นเท่าใดก็อยู่ประเภทกิจการเป็นสำคัญและสิ่งเหล่านี้จะสะท้อนไปยังค่าครองชีพประชาชนและกลายเป็นเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้น
“ปี 66 เศรษฐกิจโลกที่อาจจะถดถอยย่อมกระทบไทยอยู่แล้วแต่ไทยอาศัยท่องเที่ยวมีทิศทางฟื้นตัวจึงถือว่าโชคดีกว่าหลายประเทศ แต่เศรษฐกิจไทยก็ยังน่าห่วงตรงปัญหาเงินเฟ้อที่จะสูงขึ้นเพราะต้นทุนผลิตต่างๆ ขยับหมดแม้กระทั่งทิศทางอัตราดอกเบี้ยสิ่งเหล่านี้จะสะท้อนไปยังหนี้ภาคครัวเรือนที่ไทยอยู่ในระดับสูงมากเหล่านี้ถือเป็นสัญญาณอัตรายต่อเศรษฐกิจระยะต่อไป” นายธนิต กล่าว คำพูดจาก สล็อต888