นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประธานที่ปรึกษาพรรคก้าวไกล ตั้งโต๊ะแถลงข่าววิเคราะห์การดำเนินงาน 100 วัน แรกของรัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน ซึ่งมีทั้งข้อดี และข้อเสีย ว่า ยังประเมินเป็นเกรดไม่ได้ ทำได้อย่างมากแค่การวิเคราะห์เพราะ ไม่มีโรดแมปออกมาว่ารัฐบาลจะทำอะไรที่ชัดเจน แต่มีหลายเรื่องที่เห็นว่าทำได้ดีแล้ว ก็ขอให้ทำต่อ บางเรื่องที่ทำแล้วยังมีข้อที่จะต้องพัฒนาและปรับปรุงก็หวังว่ารัฐบาลจะรับฟังในการทำงานของฝ่ายค้านอย่างสร้างสรรค์และฟังความคิดเห็นของพี่น้องประชาชน
เอกชนชี้ไตรภาคีขึ้นค่าแรงตามกฎหมาย ไม่มีรัฐบาลไหนสั่งทบทวนบอร์ดค่าจ้าง
เอกชนค้านขึ้นค่าไฟ วอนรัฐบาลตรึง 3.99 บาท จี้ตั้งคกก.ร่วมแก้ปัญหาระยะยาว คำพูดจาก เว็บสล็อตเว็บตรง
โดยในเชิงของรัฐศาสตร์นั้น 100 วันแรกเป็นช่วงเวลาที่สำคัญมาก เพราะอย่างที่ทุกคนรู้ว่าการเมืองไม่มีเวลาฮันนีมูน โดยเฉพาะวิเคราะห์แบ่งเป็น 3 ประการ คือ การแสดงถึงความมุ่งมั่นในการรักษาสัญญาที่ให้กับประชาชนก่อนมาเป็นรัฐบาล โรดแมพ 100 วันแรกในการที่จะตามงานหรือสั่งงาน และการบริหารความคาดหวังความเชื่อมั่นนักลงทุนจากต่างประเทศ แต่ก็เข้าใจว่ามีข้อจำกัดเรื่องเวลาและงบประมาณแผ่นดิน
ทั้งนี้ผลงานรัฐบาล 100 วันแรกนั้น แบ่งเป็น 5 หัวข้อคือ 1.คิดดีทำได้ คือ การช่วยตัวประกันไทยในอิสราเอล วัคซีน HPV และการแก้หนี้ทั้งในและนอกระบบ ซึ่งในส่วนนี้รัฐบาลทำได้ดี 2.คิดไปทำไป ซึ่งมีการปรับเปลี่ยนไปมา คือ ดิจิทัลวอลเล็ต เงินเดือนข้าราชการ แลนด์บริดจ์ 3.คิดสั้น (ยัง)ไม่คิดยาว เกี่ยวยกับค่าใช้จ่ายของประชาชนคือ ค่าไฟค่าเดินทาง รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย 4.คิดใหญ่ทำเล็กในเรื่องการเพิ่มขีดความสามารถของประเทศ คือ ซอฟต์พาวเวอร์ ฟรีวีซ่า ที่ดิน สปก. ค่าแรง และ 5.คิดอย่างทำอีกอย่าง ส่วนใญ่เป็นเรื่องเกี่ยวกับการเมือง คือ การร่างรัฐธรรมนูญ และการปฏิรูปกองทัพ ซึ่งก่อนหน้านี้พรรคเพื่อไทยมีความคิดสอดคล้องกับพรรคก้าวไกล แต่การกระทำตอนนี้กลับตรงข้าม
โดยมีตัวอย่าง คือการช่วยตัวประกันไทยในอิสราเอลที่รัฐบาลทำได้ดีอยู่แล้ว ทั้งการช่วยตัวประกัน การเยียวยา สินเชื่อแรงงานไทย แต่ยังมีสิ่งที่รัฐบาลควรจะทำอีก อาทิ การเร่งช่วยตัวประกันที่เหลืออีก 9 คน การเร่งอนุมัติเงินเยียวยา การอำนวยความสะดวกให้แรงงานสามารถกลับเข้าทำงานในอิสราเอลได้ รวมทั้งดูแลแรงงานที่ยังอยู่อิสนาเอลระหว่างช่วงสงคราม พัฒนาระบบช่วยเหลือคนไทยในต่างแดน
ส่วนนโยบายดิจิทัลวอลเล็ตนั้น คิดว่านโยบายดังกล่าวมีความสำคัญเพราะใช้เงินกว่า 5 แสนล้านบาท ซึ่งไม่ควรกระทบพื้นที่ทางการคลังในการก้ปัญหาบ้านเมือง ทั้งนี้การที่นโยบายดิจิทัลวอลเล็ตมีการเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาถึง 4 ครั้งก็แสดงให้เห็นว่าเป็นการคิดไปทำไป ซึ่งการที่รัฐบาลไม่คิดอย่างรอบคอบและเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาทำให้เกิดความสับสนในสังคมและในกลุ่มของตลาดทุนด้วย สิ่งที่คาดหวังจากรัฐบาลคือต้องมีแผนสอง หากจะเอาดิจิทัลวอลเล็ต ไม่ควรที่จะต้องปรับเปลี่ยนอีกแล้ว แต่หากจะไม่เอาดิจิทัลวอลเล็ตก็จะต้อง มีความชัดเจนในการกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะกลางและระยะยาว
เรื่องของการลดค่าไฟฟ้า ให้อยู่ที่ 3.99 บาทต่อหน่วย หรือลดค่าโดยสาร รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ที่ตอนนี้ยังไม่เห็นแนวทางการแก้ไขปัญหาที่ต้นตอ นอกจากนั้นสิ่งที่รัฐบาลทำแล้วก็เป็นเรื่องที่ดีคือ คณะกรรมการซอฟพาวเวอร์ การเคาะงบประมาณ 5 พันล้านบาท สนับสนุน 11 อุตสาหกรรม หรือการทำเฟสติวัล Winter festival และสงกรานต์ตลอดเมษายน แต่สิ่งที่ควรจะเป็นคืออยากเห็นการเสนอแก้กฎหมาย เช่น พ.ร.บ. ภาพยนตร์และวีดีทัศน์ เพิ่มเสรีภาพในการสร้างสรรค์ผลงาน หรือการแก้กฎกระทรวง ระเบียบ ประกาศ เพื่อลดขั้นตอนขออนุญาตกองถ่ายหรือจัดเฟสติวัล หรือการสนับสนุนการรวมตัวของแรงงานฟรีแลนซ์ รวมไปแก้ถึงการแก้กฎกระทรวงสุราก้าวหน้า เป็นต้น
ทั้งนี้ความคาดหวังการทำงานของรัฐบาลในปีหน้า ที่รัฐบาลควรมี Strategic Roadmap ที่ชัดเจนที่ต้องการเห็นแผนการทำงานของรัฐบาล 1 ปี ต้องมีการทำงานอย่างเป็นมืออาชีพมากว่านี้ และในฐานะรัฐบาลผสมก็ต้องทำงานให้มีเอกภาพมากกว่านี้ และควรศึกษารายละเอียดของโครงการที่จะทำให้ดีเสียก่อนที่จะประกาศออกไป และต้องเป็นแผนที่ประชาชนและสื่อมวลชนสามารถติดตามกับการทำงานของรัฐบาลได้ และมี KPI ที่ชัดเจน
ผู้สื่อข่าวถามถึงสถานการณ์การเมืองในปีหน้า มีการวิเคราะห์ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองโดยมีการเปลี่ยนตัวนายกรัฐมนตรีจากนายเศรษฐา ทวีสินเป็นนางสาวแพทองธาร ชินวัตร และโครงการดิจิตอลวัลเลทจะไม่เกิดนั้น นายพิธา กล่าวว่า การปรับเปลี่ยนทิศทางน่าจะเหมาะสม มากกว่าการหาทางลง เพราะประเทศไม่ได้ต้องการอะไรมากกว่านี้ แต่ขอให้ปรับเปลี่ยนทิศทางมีเป้าหมายและมีความเป็นมืออาชีพ ก็จะทำให้สถานการณ์ต่างๆที่ดูแล้วเหมือนร้อนในปีหน้า ก็จะเบาบางลงได้และการเปลี่ยนตัวนายกรัฐมนตรี ไม่ใช่สิ่งที่ควรทำในตอนนี้ควรให้โอกาสนายกรัฐมนตรีได้ทำงานก่อน ส่วนในอนาคตก็มีการประเมินสถานการณ์อยู่เรื่อยๆแต่คงไม่เป็นสาระสำคัญในการแถลงวันนี้
สำหรับกรณีที่มีการประเมินว่านายเศรษฐา ทวีสินไม่ใช่เป็นนายกรัฐมนตรีตัวจริงนั้น นายพิธา กล่าวว่า เห็นตัวอย่างเรื่องที่นายกออกข้อสั่งการที่ไม่พอใจ ค่าแรงขั้นต่ำ ซึ่งหากเป็นตนก็จะไปดูสูตรการคำนวณ ซึ่งนอกจากจะสั่งงานว่าเอาเป้าหมายอย่างไรก็ต้องส่งคนเข้าไปดูว่ากระบวนการเกิดขึ้นอย่างไรก็จะไม่มีเซอร์ไพรส์ออกมาในหน้าข่าวหากมีการตามงานภายใน จึงอยากเสนอแนะนายกรัฐมนตรีว่าไม่สามารถสั่งการลงไปแล้วจะเกิดการเปลี่ยนแปลงทันที เพราะการบริหารราชการแผ่นดินไม่เหมือนกับเอกชน ที่จะต้องมีกระบวนการในการบริหารงานและให้คนไปติดตามว่าสิ่งที่สั่งการนั้นเป็นไปได้ทางกฎหมายหรือไม่ ถ้าเป็นไปไม่ได้ก็จะต้องมีการปรับแก้อย่างไร
“โจทย์หินของรัฐบาล คือเรื่องการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจในปีหน้า ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ GDP ที่ไม่แน่ใจว่าจะถึง 2% หรือไม่ เรื่องของดิจิตอลวาเล็ตที่อยู่ในกฤษฎีกา เรื่องของการท่องเที่ยวที่รายได้ไม่ถึง 4 แสนล้านบาทตามเป้าหมาย แม้จะมีคนมาท่องเที่ยว 27 ล้านคนก็ตาม การกลับมาของนักท่องเที่ยวจีนที่คาดไว้ในระดับ 60% ดังนั้นฟรีวีซ่าตรงนี้ ก็ไม่เพียงพอ คำตอบนี้ขึ้นอยู่กับการทำงานของรัฐบาล หากฟังประชาชนบ้าง เพื่อนนักการเมืองบ้างว่ามีความจำเป็นว่าจะต้องทำงานแบบมีโรดแมป”
เมื่อถามว่าจะให้เวลารัฐบาลทำงานนานแค่ไหนก่อนที่จะมีการยื่นญัตติอภิปรายทั่วไป นายพิธา จะรอดูว่า หากพ.ร.บงบประมาณไม่มีรายละเอียด การยื่นอภิปรายไม่วางใจ น่าจะเป็นเรื่องที่ผู้นำฝ่ายค้าน ก็คงจะยื่นในไตรมาสที่ 1 หรือไตรมาสที่ 2 ขึ้นอยู่กับผลการชี้แจงผ่าน พ.ร.บ.งบประมาณที่เข้ามาก่อน ก็จะใช้โอกาสนั้นในการชำแหละเรื่องของงบประมาณ ว่าตรงกับสิ่งที่เสนอไว้ในเรื่องวิสัยทัศน์หรือไม่ รวมถึงการชี้แจงคำถามของทางฝ่ายค้านหากทำได้ไม่ดี ก็คงจะมีการยื่นอภิปรายไม่วางใจ ขณะเดียวกันยังติดตามเรื่องการทุจริต การใช้งบประมาณ ก็มีหากมีหลักฐานที่ชัดเจนก็อาจจะอภิปรายไม่ไว้วางใจได้ ขึ้นอยู่กับการทำงานของรัฐบาลในต้นปีหน้า
ส่วนที่มองกันว่า ฝ่ายค้านมัวแต่แก้ปัญหาภายในพรรคไม่ได้ทำงาน มีผลงานนั้นนายพิธา กล่าวว่า ในส่วนที่มีปัญหาก็ต้องแก้กันไปแต่สิ่งสำคัญ จะต้องทำงานตามที่สัญญาไว้กับประชาชน โดยเป็นฝ่ายค้านที่สร้างสรรค์ให้ใช่จ้องแต่จะล้มรัฐบาลเพียงอย่างเดียว ทั้งนี้ยอมรับ เสียงวิพากษ์วิจารณ์ ว่าส.ส.หลายคนของพรรค เป็นส.สส้มหล่นซึ่งก็จะพยายามพัฒนาบุคลากรของพรรคให้มีประสิทธิภาพอย่างเต็มที่
ผู้สื่อข่าวได้ถามอย่างไรก็ตามภายหลังการแถลงข่าวผู้สื่อข่าวได้สอบถามว่านนกุล ชานน สันตินธรกุล เปิดตัวกับแอฟ ทักษอร แล้วรู้สึกอย่างไร นายพิธาหัวเราะพร้อมกับบอกว่า ดีใจด้วยครับ
เปิดสมัครสอบแข่งขัน เข้ารับราชการสังกัดสถ. 6 ตำแหน่ง 230 อัตรา
เจ้าของทีมในศึกพรีเมียร์ลีกร่ำรวยที่สุด 10 อันดับแรก
สมาคมโหร ฯ เปิดดวง 12 ราศีประจำปี 2567 ใครจะรุ่งใครจะปังเช็กเลย!